เชิญอ่านบทความเสริมสร้างกำลังใจประจำวันใน facebook กลุ่ม "ขอบพระคุณพระเจ้า"
---> http://www.facebook.com/groups/thanksgod7/

ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับทุกวันนี้..
แม้ว่าจะมีความเหงามาก เพราะยังไม่ชินต่อการที่พ่อแม่ไม่อยู่
แต่ก็ยังมีอะไรให้ทำได้ทั้งวัน แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้คลายความคิดถึง
พ่อแม่เท่าไรนัก แต่ขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ ที่ในแต่ละวัน
ก็ทำให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยพระคุณจากพระองค์

เมื่อคิดถึงพ่อแม่ ก็ขอบพระคุณพระเจ้าในการทรงจัดเตรียมของพระองค์
พ่อและแม่รักกันมาก พ่อจะดูแลแม่ตลอดมา แม่ก็จะดูแลพ่อตลอดมา
แม้ว่าพ่อแม่ของข้าพเจ้าจะอยู่ในวัยชรา เมื่อท่านจากไป คือ 92 และ 84 ปี
แต่ข้าพเจ้าก็ยังสัมผัสได้ว่า พ่อแม่ยังหนุ่มสาวอยู่เสมอ
ก็เพราะความรักที่ท่านมีต่อกัน ขอบพระคุณพระเจ้าในชีวิตคู่ของพ่อแม่

แม้แต่ตอนจากไป พ่อจากไปในวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม
ส่วนแม่จากก็จากไปในวันจันทร์เช่นดียวกัน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม
และทั้งสองก็จากไปในเวลาเดียวกันอีก คือช่วง 22.00 น.

ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจถึงความรักมั่นคงของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
พระองค์ทรงจัดเตรียมในการจากไปของท่านทั้งสองที่รักกันมาก
ไม่ทำให้ท่านทั้งสองต้องเป็นทุกข์ในการจากไปของอีกฝ่ายเลย
เพราะเมื่อพ่อต้องเข้าโรงพยาบาล แม่ก็มาเป็นอัลไซเมอร์จำพ่อไม่ได้
จนพ่อจากไปอยู่กับพระเจ้า..
และเมื่อแม่จากไป พ่อก็จากไปก่อนแล้ว พ่อจึงไม่ต้องเสียใจเพราะแม่จากไป

ขอบพระคุณพระเจ้า ในความรักที่ผูกพันเช่นนี้
ทำให้ข้าพเจ้าได้มองเห็นในความรักที่งดงามเสมอ
และในที่สุด ความรัก ก็คือ ความรักที่งดงามเสมอ
ความรักที่ไม่งดงาม ย่อมไม่ใช่ความรักแท้
เพราะความรักแท้มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ

เชิญอ่านบทความเสริมสร้างกำลังใจประจำวันใน facebook กลุ่ม "ขอบพระคุณพระเจ้า"
---> http://www.facebook.com/groups/thanksgod7/

...วันนี้หลังจากที่ข้าพเจ้าทำธุระเสร็จ และจะกลับบ้าน
ก็สังเกตเห็นทางออกที่มีป้ายเขียนว่า เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามผ่าน
แต่ก็มีรถผ่านไปมา ข้าพเจ้าจึงถาม เขาก็บอกว่า 
ที่ดินตรงนี้มีเจ้าของและห้ามผ่าน แต่คนก็ยังทำผิดเสมอ

ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไปอีกทางดีกว่า เพราะไม่อยากทำผิด
แม้ยังไม่ทราบว่าอีกทางนั้นจะสะดวกไหม แต่ก็เห็นแล้วว่าออกไปได้เหมือนกัน
แต่เมื่อขับไป ก็พบว่าเป็นทางแคบ และยังเจอหลุมหลายหลุม
.....แต่จะทำยังไงดี จะถอยก็ไม่ได้แล้ว
ข้าพเจ้าพูดกับพระเจ้าอยู่ตลอดเวลา ขอทรงช่วยข้าพเจ้าด้วย ขอให้รถผ่านไปได้
และข้าพเจ้าก็ตั้งสติ ขับให้เบามืออย่างที่สุด ท่ามกลางหลุมหลายหลุม
ขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ... ในที่สุดก็ผ่านทางนั้นมาได้

เมื่อออกมา ข้าพเจ้าก็ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...
ดูเหมือนว่า รถจะไม่กระทบกระเทือนอะไรเลย
ก็คงเป็นเพราะว่าข้าพเจ้ารู้สึกกลัว รู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ
จึงอธิษฐานด้วยความเชื่อ พร้อมกับขับให้เบาและระวังที่สุด

ข้าพเจ้าจดจำเสมอว่า..
"อย่ากลัวที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่จงกลัวในการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง"
เหตุการณ์นี้ ข้าพเจ้าจึงไม่เสียใจที่ขับรถไปในทางที่ขรุขระ
เพราะดีกว่าขับไปในทางที่สะดวก แต่มีป้ายห้ามผ่าน แม้คนส่วนมากจะทำกันก็ตาม

ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าสัมผัสได้ว่า ..พระเจ้าทรงอยู่กับข้าพเจ้า ทรงนำให้ผ่านมาได้จริงๆ
ข้าพเจ้านึกถึงทางแคบคือทางในพระเยซู เป็นทางแห่งขีวิต เป็นทางทึ่ถูกต้อง
และด้วยความเชื่อ เราก็ผ่านมาได้ด้วยพระคุณจากพระเจ้า
>>1 ปต. 3:14 ..แต่ถึงแม้ว่าท่านทั้งหลายต้องทนทุกข์
เพราะเหตุประพฤติการชอบธรรม ท่านก็เป็นสุข"
ขอขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ ^____^
by ~ ปาฏลี

เมื่อวานหลังจากกลับมาจากโบสถ์ ข้าพเจ้าก็เพิ่งสังเกตเห็นว่า..
สปอยเลอร์หลังรถหลุดหายออกไป เหลือแต่ส่วนข้างๆที่แตก
คาดว่า คงจะหลุดออกไปตอนขับรถบนทางด่วน
...ขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ ที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้อื่น

เมื่อข้าพเจ้าทราบว่ามันหลุดไป ก็เศร้าใจอยู่แว่บหนึ่ง
เพราะข้าพเจ้าจะดูแลรักษารถ เวลาล้างแต่ละครั้งก็จะดูแลสปอยเลอร์เป็นพิเศษ
ทั้งที่จริงๆแล้ว ส่วนนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับรถมากนัก เพียงแต่ทำให้รถดูสวยขึ้น

...ข้าพเจ้าสงสารรถ เหมือนว่ามันจะมีชีวิต ^^
ลูกชายก็เลยปลอบข้าพเจ้าว่า ก็เหมือนร่างกายของคนเรา
ที่พอเราล้มแล้ว เนื้ออาจจะหลุดไปนิดหน่อย แต่ร่างกายก็ยังใช้งานได้
ขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ.. คำพูดของลูกชายทำให้ข้าพเจ้าเลิกเศร้าได้

วันนี้ข้าพเจ้าก็เลยเอาไปให้ช่างติดกาวส่วนที่เป็นรูของสายไฟตรงสปอยเลอร์
และคิดว่าคงไม่ต้องการซื้ออันใหม่มาติด ปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ
ข้าพเจ้ามองดูแม้จะดูโล่งๆ ก็สวยไปอีกแบบจริงๆด้วย ..ขอบพระคุณพระเจ้า

ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงการที่พระเจ้าทรงลิดสิ่งที่ไม่ดีในตัวของเรา
เมื่อเรายอมให้พระเจ้าทรงลิดออกไป ส่วนที่คงอยู่ก็จะงดงามขึ้นอีกมาก
บางครั้งเราติดอยู่กับนิสัยที่ไม่ดีเดิมๆ เราเคยชินกับมันในทุกๆวัน
แต่เมื่อเราละทิ้งนิสัยนั้นไป หรือละทิ้งความเป็นตัวเราไป
โดยที่ยอมให้พระเจ้าเข้ามาจัดการกับมัน
เราจะพบว่า... เราเติบโตขึ้นอีกมากในพระคุณของพระองค์
>>"ยน. 15:2 แขนงทุกแขนงในเราที่ไม่ออกผล พระองค์ก็ทรงตัดทิ้งเสีย
และแขนงทุกแขนงที่ออกผล พระองค์ก็ทรงลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น"

...ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสปอยเลอร์ที่หลุดไปในวันอีสเตอร์
เพราะเป็นวันพิเศษที่ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งตระหนักถึงความรักจากพระองค์
ด้วยพระคุณจากพระองค์ ทรงลิดบางสิ่งออกไป เพื่อให้เกิดผลที่ดีมากมาย
และเราก็ชนะแล้วจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ฮาเลลูยา!!

..ขอบพระคุณพระเจ้า พระองค์ไม่เพียงแต่ทำให้เราปราศจากความบาป
แต่พระองค์ก็ยังทรงตกแต่งเรา เพื่อให้เราเกิดผลที่มากมายอีกด้วย
...ขอขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ ^______^
by ~ ปาฏลี

เป็นวันที่พระเยซูทรงทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ ..อย่างแสนสาหัสวันนี้.. วันศุกร์ประเสริฐ 
เป็นวันที่พระเยซูทรงถูกตรึงที่กางเขน

พระเยซูทรงทนทุกข์ทรมาน ...อย่างแสนสาหัส โดยที่พระองค์ไม่มีความผิดเลย
พระองค์ทรงดีเลิศ ..เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์
...แต่พวกเรา มนุษย์นั่นเอง ที่เป็นคนบาป
>>"โรม 5:8 "พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย
คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา"
...พระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานอย่างไร้ความผิด เพื่อพวกเราซึ่งเป็นคนบาป

...ขอบพระคุณพระเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าต้องตระหนักอยู่เสมอว่า
อย่าให้ความทุกข์และความทรมานของพระเยซูบนไม้กางเขนต้องสูญเปล่า...

เพราะเหตุนี้.. ข้าพเจ้าจึงสำนึกเสมอว่า...
ไม่มีความทุกข์ใดๆของข้าพเจ้า จะหนักหนาเท่าความทุกข์ของพระองค์
ไม่มีความเจ็บปวดใดๆในร่างกายที่ไม่แข็งแรงของข้าพเจ้า จะเจ็บปวดเท่าพระองค์
ไม่มีความเหน็ดเหนื่อยใดๆ จะเท่ากับความเหน็ดเหนื่อยของพระองค์
ไม่มีความเสียใจใดๆที่เคยถูกกระทำ จะเจ็บปวดเท่าความรู้สึกของพระองค์
>>"1 ปต. 2:23 ...เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรง
กล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์
พระองค์ไม่ได้ทรงมาดร้าย แต่ทรงมอบเรื่องของพระองค์ไว้แก่พระเจ้า
ผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม"

เพราะเหตุนี้.. ข้าพเจ้าจึง...
ดูเหมือนคนที่ไม่มีความทุกข์เลย... แม้กำลังเผชิญเรื่องราวที่ดูโหดร้าย
ข้าพเจ้าก็ยังสดชื่นอยู่เสมอจากหัวใจ ..นี่เป็นพระคุณจากพระเจ้าจริงๆ
ไม่มีความขัดสนใดๆ.. แม้จะทราบว่าต้องขัดสน แต่ก็ไม่เคยต้องขัดสนสักครั้ง

ข้าพเจ้ามีความหวังอยู่เสมอ เพราะความหวังในพระเจ้าไม่มีวันสูญสิ้น
ข้าพเจ้ามีความเบิกบานใจอยู่เสมอ แม้ไม่ทราบอนาคตของตัวเองและลูก
ข้าพเจ้ายอมเหน็ดเหนื่อย ยอมอดทนที่จะไม่ทำการชั่วใดๆเพื่อความสบายชั่วคราว
ข้าพเจ้าพอใจในความเล็กน้อยนี้ เพราะข้าพเจ้าทราบว่าจะรับรางวัลที่นิรันดร์

ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเยซูคริสต์ที่ทรงมาช่วยคนบาปอย่างข้าพเจ้า
ทำให้คนบาปคนนี้ได้สะอาด และเริ่มตั้งต้นใหม่ด้วยหัวใจใหม่อยู่เสมอ...
>>"ฟป. 3:13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว
แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย
และโน้มตัวออกไปาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า"
...นี่เป็นความจริงและเป็นสันติสุขของผู้ชอบธรรม
เพราะผู้ชอบธรรม คือผู้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์อย่างสุดหัวใจ
...ขอขอบพระคุณพระเจ้าค่ะ ^_______^   by ~ ปาฏลี

ข้าพเจ้าได้ดูวีดีโอการกินอาหารแบบแปลกๆของประเทศหนึ่ง
ก็คือกินทั้งที่สัตว์ยังมีชีวิต ..เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอีกคนที่ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก

ข้าพเจ้าเคยคิดว่า มันคงจะเจ็บปวดและทรมานมาก
แต่ข้าพเจ้าก็มั่นใจในการทรงสร้างของพระเจ้าในสัตว์ที่เป็นอาหารของมนุษย์
ข้าพเจ้าคิดว่า มันจะไม่มีระบบประสาทที่ทำให้เจ็บปวดมาก เหมือนมนุษย์
และวันนี้ก็ได้เข้าไปดูใน MySci ก็พบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์สัตว์พวกปลา
ว่ามันไม่มีระบบประสาทเหมือนคน ที่จะรู้สึกเจ็บ ...ขอบพระคุณพระเจ้า

ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงว่า หลายครั้งที่เราไม่ชอบคนที่ทำร้ายสัตว์
เราไม่ชอบการกระทำที่ทำให้ชีวิตของสัตว์ต่างๆถูกทรมาน ถูกฆ่าตาย
เราสงสารมัน แต่บางครั้งเราเองก็ลืมคิดไปว่า..
เราก็อาจเป็นคนที่กำลังทำสิ่งนั้นเอง ..กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ข้าพเจ้าเจอสิ่งแบบนี้ ก็มักกลับมาคิดเสมอว่า เราทำสิ่งนั้นด้วยไหม
..ขอบพระคุณพระเจ้าในพระวจนะของพระองค์
มีหกสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงเกลียด มีเจ็ดซึ่งเป็นที่น่าเกลียดน่าชังสำหรับพระองค์
ตา ยโส ลิ้นมุสา และมือที่ทำโลหิตไร้ผิดให้ตก จิตใจที่คิดแผนงานโหดร้าย
เท้าซึ่งรีบวิ่งไปสู่ความชั่ว พยานเท็จ และคนผู้หว่านความแตกร้าว
ตักเตือนให้ระวังการล่วงประเวณี (สุภาษิต 6:16−19)

ในวันนี้เราอาจจะสงสารสัตว์ที่ถูกทำร้าย
...แต่เราเองกำลังทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอยูไหม
เพราะมนุษย์นั้นถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้า
เป็นการทรงสร้างที่พระเจ้าทรงรักมาก
การทำร้ายมนุษย์ด้วยกันไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
..จึงเป็นสิ่งที่น่าเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดๆ

ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระวจนะของพระองค์คอยเตือนสอนพวกเราอยู่เสมอ
เพราะความยำเกรงพระองค์เท่านั้น ที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่
เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก พระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคน
...ขอขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระวจนะของพระองค์เป็นความจริงและเป็นชีวิตค่ะ 
by ~ ปาฏลี